ยิ่งมีรายได้หลากช่องทางมากเท่าไร โอกาสที่ธุรกิจจะแข็งแกร่ง และเติบโตได้อย่างมั่นคงก็มีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ความจริงข้อนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนตระหนักดี ทว่าก็มีไม่กี่ธุรกิจที่จะทำสำเร็จได้ง่ายๆ แต่หนึ่งในธุรกิจที่ทำให้เห็นผลลัพธ์ความสำเร็จของการมีโครงสร้างรายได้หลายช่องทางได้ในปัจจุบันก็คือ “Quick Service” แฟรนไชส์จัดส่งพัสดุด่วนและร้านสารพัดบริการที่มีช่องทางรายได้มากกว่า 8 ช่องทาง
และล่าสุดก็กำลังขยายเพิ่มมากขึ้นอีก 1 ทางด้วย โดยเปิดไลน์ธุรกิจใหม่ที่มีชื่อว่า “ไอโกบาย” แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชที่จะช่วยให้ผู้คนในชุมชนเข้าถึงการซื้อของออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น
ไอโกบายคืออะไร?
ไอโกบาย หรือ iKOBAi เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชรูปแบบหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกับร้านค้าปลีกเสมือนจริง ซึ่งจะนำภาพจำลองสินค้ามาโชว์อยู่บนตู้ หรือ แทปเล็ตหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกชมอย่างง่ายดาย
และหากต้องการซื้อ ก็เพียงแค่ใช้มือถือแสกน QR Code ก็สามารถชำระเงินซื้อของได้ทันที แล้วรอรับของที่บ้านได้เลย หรือจะให้สินค้ามาส่งที่ร้านสาขาของ Quick Service ใกล้บ้านแล้วมารับก็ได้ ซึ่งจะได้รับสินค้ารวดเร็วภายใน 1-2 วันเท่านั้น
ไอโกบาย ดีและตอบโจทย์ชุมชนอย่างไร?
มื่อเห็นรูปแบบการให้บริการของไอโกบายแล้ว หลายๆ คนอาจเกิดคำถามว่า บริการของไอโกบายตอบโจทย์ได้จริงหรือ เพราะถ้าอยากซื้อของออนไลน์ การกดซื้อผ่านมือถือที่ Lazada, Shopee หรือ แพลตฟอร์มในแอปอื่นๆ ไม่สะดวกกว่าหรือ? คำตอบก็คือ ไอโกบายไม่ได้ตอบโจทย์คนทั้งหมด แต่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าชุมชนอีกจำนวนมหาศาล ที่ยังไม่กล้าซื้อของออนไลน์ด้วยตนเอง ยังใช้งาน Internet และเครือข่ายโซเชียลมีเดียไม่คล่อง รวมถึงลูกค้าที่เคยมีประสบการณ์ไม่ดี กับการสั่งของออนไลน์ ได้ของไม่ตรงปก ไม่ตรงตามที่สั่งซื้อไป
ไอโกบาย จะทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวกลาง ช่วยให้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (เจ้าของแบรนด์สินค้า) ได้บรรลุวัตถุประสงค์ในการซื้อขายได้สะดวกและง่ายขึ้น เป็นร้านค้าที่การันตีให้ลูกค้าได้ว่า ถ้าซื้อสินค้าผ่านตู้ หรือแทปแล็ตแสดงสินค้าของไอโกบายที่ Quick Service แล้ว จะได้รับสินค้าแน่นอน ไม่ถูกโกง ได้รับสินค้าที่ตรงกับที่สั่ง และสั่งซื้อได้อย่างสะดวกสบายเพราะมีพนักงานคอยดูแลให้บริการ มีช่องทางในการติดต่อสอบถามที่เข้าถึงได้ มีตัวตนชัดเจน
ไอโกบาย ดีต่อผู้ลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service อย่างไร?
การที่ Quick Service จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับไอโกบายนั้น จะสามารถสร้างประโยชน์ให้กับผู้ลงทุนแฟรนไชส์ Quick Service หลัก ๆ 2 ทาง คือ สาขาของร้าน Quick Service จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทาง คือ Commission จากยอดขายสินค้าผ่านตู้หรือแทปเล็ตขายสินค้าไอโกบาย
และประโยชน์อีกทางหนึ่ง คือ ช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามาใช้บริการรร้านสาขามากขึ้น โดยแม้ในวันแรกจะไม่ได้เป็นลูกค้าของบริการสั่งพัสดุ หรือบริการอื่น ๆ ในร้านเลย แต่เมื่อได้เข้ามาลองใช้บริการตู้ไอโกบาย ก็จะค่อย ๆ ซึมซับบริการอื่น ๆ เกิดความคุ้นเคยไว้ใจ และกลายมาเป็นลูกค้าในบริการช่องทางอื่น ๆ ด้วยได้ในที่สุด
ส่งผลให้ขยายฐานลูกค้าได้กว้างขึ้น สร้างฐานลูกค้าประจำได้ใหญ่ขึ้น และยังเพิ่มโอกาสที่ค่าเฉลี่ยยอดใช้บริการต่อหัวของลูกค้า 1 คนที่มาสาขานั้นเพิ่มขึ้นได้ตามไปด้วย เช่น จากเดิมที่ตั้งใจมาส่งพัสดุด่วนอย่างเดียว ก็กลายเป็นซื้อสินค้าผ่านตู้ไอโกบายด้วย ทำให้สาขาได้รายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งในการติดตั้งแทปเล็ต หรือ ตู้แสดงสินค้าของไอโกบายนี้สาขาจะไม่ต้องลงทุน ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม
ไอโกบาย คือผู้ช่วยคุณซื้อของออนไลน์ที่สร้างความมั่นใจและเป็นมิตรกับลูกค้าชุมชน ซึ่งเมื่อผนวกรวมเข้ากับ Quick Service จึงทำให้ผู้ใช้บริการสาขามีความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะจะรู้สึกว่า มาที่ร้าน Quick Service แล้วจบครบทุกบริการในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นซื้อของ ส่งพัสดุ ต่อ พรบ. ประกัน ภาษี รถยนต์ จ่ายบิล เติมเงิน ถ่ายเอกสาร ถ่ายรูปติดบัตร หรือแม้กระทั่งขอสินเชื่อบ้านและรถยนต์ก็สามารถทำได้ ฯลฯ
และด้วยการเพิ่มไลน์ธุรกิจใหม่ขึ้นนี้เอง จึงยิ่งทำให้ Quick Service แข็งแกร่งมากขึ้นไปอีก เพราะมีช่องทางรายได้หลายช่องทางมากขึ้น ส่งผลให้แม้จะอยู่ในสภาพเศรษฐกิจที่ติดขัด ก็ยังเติบโตต่อไปได้ ดังที่ Quick Service สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดดสวนกระแสโควิดในทุกระลอกที่ผ่านมา
ดังนั้น Quick Service จึงกลายเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับการจับตามองและได้รับความไว้วางใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ พิสูจน์ได้จากจำนวนสาขาที่มีเปิดใหม่ทุกเดือน และปัจจุบันมีมากกว่า 500 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งใครที่สนใจอยากลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service ก็อย่ารอช้า สามารถติดต่อเข้ามาจองทำเลกันและขอข้อมูลรายละเอียดกันได้ก่อน เพราะจำกัดสิทธิ์พื้นที่ในการเปิดสาขาเพียงแค่ 1 ชุมชน 1 ตำบล 1 สาขาเท่านั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ลงทุน