สถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ และยิ่งแย่หนักเข้าไปใหญ่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทำให้ทุกคนต่างก็หวาดหวั่นว่า “ตัวเองจะอยู่รอดได้หรือไม่” ในสภาวะเช่นนี้ สำหรับเจ้าของธุรกิจก็หวั่นว่ากิจการจะล้มลง สำหรับพนักงานประจำกินเงินเดือนก็หวั่นว่าจะถูกจ้างให้ออกจนต้องตกงาน อย่างไรก็ตาม ในมุมของผู้ลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service นั้น ถือว่าสวนกระแส เพราะแม้สถานการณ์จะอยู่ในขั้นวิกฤตแบบนี้ แต่ก็ยังมีผู้ตัดสินใจลงทุนเปิดแฟรนไชส์ Quick Service อยู่ดี ด้วยเหตุผลสำคัญๆ 2 ข้อคือ
1. เพราะผู้คนจับจ่ายออนไลน์มากขึ้น การส่งพัสดุก็ยิ่งเติบโต
บริการขนส่งพัสดุ บริการเดลิเวอร์รี่ ถือได้ว่าเป็นบริการที่มีการเติบโตแบบสวนกระแสในสภาพเศรษฐกิจที่มีโรคระบาดเช่นนี้ เพราะแม้ผู้คนจะไม่อยากออกจากบ้าน แต่อย่างไรเสีย ก็จำเป็นต้องจำจ่ายใช้สอย นั่นจึงทำให้ยอดของการสั่งซื้อของออนไลน์ สั่งอาหารออนไลน์ ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลทำให้แฟรนไชส์ Quick Service ที่มีบริการหลักเป็นการส่งพัสดุด่วน ภายใต้ระบบการขนส่งของ ไปรษณีย์ไทย และเคอรี่เอ็กซ์เพรส ก็เติบโตตามไปด้วย นั่นเอง จึงอาจกล่าวได้ว่า แม้จะอยู่ใสภาวะที่วิกฤติ แต่ Quick Service ก็ยังสามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับผู้บริโภคได้ จนสามารถยืนหยัดอยู่ได้ในสถานการณ์ที่อีกหลายๆ ธุรกิจกำลังล่อแล่
2. เพราะ Quick Service มีช่องทางรายได้หลายทางที่ทุกทางเป็นสิ่งจำเป็น
บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริการต่อ พ.ร.บ. ประกัน ภาษี รถยนต์ บริการแนะนำสินเชื่อบ้านและรถยนต์ บริการเป็นจุด Drop Off และบริการขนส่งพัสดุ ฯลฯ บริการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคสามารถทำได้ทุกอย่างเพียงแค่มาที่ Quick Service ใกล้บ้านแค่ที่เดียว ทำให้สามารถจัดการทุกธุระจบได้แบบง่าย สะดวก และเร็วสุด ไม่ต้องเดินทางไปหลายๆ ที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ เมื่ออยู่กับสถานการณ์โรคระบาด จึงตอบโจทย์ผู้คนที่ไม่ต้องการออกไปไหนมากมาย แต่ก็ยังจำเป็นต้องทำธุระให้จบสิ้น Quick Service เลยตอบโจทย์ และกลายเป็นเสมือนที่พักพิงที่ช่วยให้ชีวิตทุกคนสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นในที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ในขณะเดียวกัน ด้วยความที่สาขาของ Quick Service มีช่องทางในการสร้างรายได้หลายช่องทาง จึงทำให้ผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่รุนแรงมาก เพราะแม้บางช่องทางจะรายได้บางช่องทางจะลดลง แต่ก็มีรายได้ช่องทางอื่นๆ มาช่วย ทำให้ยังสามารถมีรายได้ที่เพียงพอให้ก้าวผ่านช่วงวิกฤติไปได้อย่างที่ไม่ต้องเจอกับปัญหามากนัก
ในอนาคตข้างหน้านั้น แน่นอนว่า โรคระบาดครั้งใหม่ หรือปัญหาเศรษฐกิจครั้งใหม่ ก็จะยังสามารถเกิดขึ้นได้อีกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ด้วยรูปแบบของการให้บริการด้านการขนส่งพัสดุด่วน และการเป็นร้านสารพัดบริการนี้เอง จึงทำให้ Quick Service มีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาตัวรอดจากทุกเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ หรืออาจถึงขั้นพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ด้วยซ้ำ เพราะเมื่อคนไม่ออกจากบ้าน อย่างไรก็ต้องใช้บริการส่งพัสดุ ซึ่งสำหรับ Quick Service ที่ไม่ได้ต้องใช้พนักงานส่งของเอง แต่มีพันธมิตรอย่างไปรษณีย์ไทยและเคอรี่เอ็กซ์เพรสช่วยมารับส่งของให้นั้น จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีต้นทุนเพิ่ม หรือจะไม่สามารถสร้างรายได้ได้ หรือต่อให้มีการนำ AI เข้ามาใช้แทนคนส่งพัสดุ Quick Service ก็จะไม่ถูกผลกระทบแต่อย่างใด ด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของระบบคนส่ง 2 ยักษ์ใหญ่ที่ดีที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง ดังนั้น ตราบเท่าที่ โลกยังคงขับเคลื่อนด้วยการต้องการความสะดวกสบาย ซื้อขายออนไลน์ และใช้การขนส่งพัสดุอยู่ล่ะก็ Quick Service ก็จะยังคงเติบโตต่อไปได้เรื่อยๆ อย่างมีพัฒนาการที่แข็งแกร่งมากขึ้น และไม่เสียท่าง่ายๆ ให้กับทุกวิกฤติการณ์เศรษฐกิจหรือพิษภัยจากโรคระบาด