“Quick Service” จัดเป็นหนึ่งในธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทร้านจัดส่งพัสดุด่วนเอกชน ที่หลายๆ คนก็อาจจะรู้สึกว่าในตลาดก็มีให้เลือกหลายแบรนด์ แล้วทำไมจึงจำเป็นต้องเลือกตัดสินใจลงทุนกับ Quick Service แล้ว Quick Service มีความแตกต่างโดดเด่นอย่างไร วันนี้เพื่อให้เพื่อนๆ ที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะลงทุนกับแฟรนไชส์ไหนดี เราจึงมี 4 ข้อความแตกต่างอันโดดเด่นของ Quick Service มาฝากกันครับ
1. Quick Service ไม่ได้ส่งพัสดุเหมือนแฟรนไชส์อื่นๆ
โดยปกติแล้วแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุเอกชนส่วนใหญ่นั้น จะมีระบบมาให้ และผู้ลงทุนจำเป็นจะต้องมีพนักงานสำหรับคอยนำพัสดุไปวิ่งจัดส่งเอง จึงทำให้เกิดเป็นต้นทุนในการดำเนินงานขึ้นอีกก้อน รวมถึงจะมีเรื่องของความซับซ้อนและระยะเวลาความยุ่งยากในการจัดส่งพัสดุอีก แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปทันทีกับ Quick Service เพราะ Quick Service ไม่ได้เป็นแฟรนไชส์ที่ต้องทำการจัดส่งพัสดุเอง แต่เป็นจุด “รับส่งสินค้า” ของ Kerry และ ไปรษณีย์ไทย
ซึ่ง เป็นพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของ Quick Service กล่าวคือ เมื่อลูกค้ามาใช้บริการส่งพัสดุ ก็จะเลือกได้ว่าจะส่งด้วยระบบไหน ระหว่างไปรษณีย์กับเคอรี่ แล้วในแต่ละวัน ก็จะมีรถพัสดุของทั้ง 2 บริษัทมารับพัสดุไปส่งเข้าระบบเป็นรอบๆ ทำให้สาขา Quick Service ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ไม่ต้องเสียเวลาพนักงานไปส่งพัสดุ แถมทุกกล่องพัสดุที่ส่ง ยังได้ส่วนแบ่งรายได้แบบเต็มๆ ไม่ต้องหักแบ่งต้นสังกัดอีกด้วย ดังนั้น Quick Service จึงเป็นแฟรนไชส์จัดส่งพัสดุด่วนที่มีต้นทุนในการดำเนินการต่ำมากๆ และได้กำไรแบบเต็มๆ ในทุกๆ กล่องพัสดุที่จัดส่ง
2. Quick Service เป็นมากกว่าแฟรนไชส์ส่งพัสดุ
จุดเด่นที่แตกต่างที่สุดเลยของ Quick Service คือการเป็น “ร้านสารพัดบริการ” ภายใต้สโลแกน “จุดเดียวจบ ครบทุกบริการ” โดยที่สาขาของ Quick Service ลูกค้าจะไม่ได้สามารถใช้บริการได้เพียงแค่การส่งพัสดุเท่านั้น แต่ยังทำอะไรอื่นๆ ได้อีกมากมาย อาทิ จ่ายบิล ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ ถ่ายรูปติดบัตร ถ่ายเอกสาร ส่งอีเมล แฟ็กซ์ จองตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ ขอสินเชื่อบ้านและรถยนต์ ต่อประกัน พ.ร.บ. ภาษี โอนเงิน เติมเงินโทรศัพท์ หรือ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ขายของบน Lazada และ Shopee ก็สามารถมา Drop Off ฝากส่งพัสดุได้ฟรี
และด้วยบริการมากมายเหล่านี้เอง จึงดึงดูดให้ลูกค้าอยากมาใช้บริการได้มากกว่า เพราะออกจากบ้านครั้งเดียว แต่ทำธุระสำคัญในชีวิตได้จบหมดในคราวเดียว สะดวก ง่าย ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้สาขากลายเป็นแฟรนไชส์ที่มี “ช่องทางการสร้างรายได้” มากกว่า 1 ช่องทาง ทำให้เกิดเป็นความมั่นคง ที่แม้จะมีวิกฤตเกิดขึ้นบางอย่าง สาขาก็ยังมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ
3. Quick Service ไม่ได้แพงอย่างที่ใครๆ คิด
แม้หลายๆ คนจะรู้สึกว่า “เงินลุงทุนหลักแสน” ของการเปิด Quick Service นั้น สูงกว่าแฟรนไชส์ส่งพัสดุด่วนอื่นทั่วไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ด้วยการที่ Quick Service มีพันธมิตรทางธุรกิจเป็นจำนวนมาก อาทิ ไปรษณีย์ไทย เคอรี่ ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทประกันภัยกว่า 30 บริษัท ตลอดจน Lazada และ Shopee จึงทำให้โอกาสในการสร้างรายได้ที่มั่นคงของ Quick Service นั้นมีมากกว่า เพราะลูกค้าของแต่ละบริษัท ก็จะกลายเป็นลูกค้าของ Quick Service ไปในทันที การเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำเหล่านี้
ทำให้ Quick Service มีความน่าเชื่อถือ และดึงดูดลูกค้าได้มากกว่า แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เงินลงทุนหลักแสนที่ใช้นั้น ผู้ลงทุนไม่เพียงจะได้เป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำอย่างเดียว แต่ยังได้อุปกรณ์ และระบบในการบริหารจัดการร้านทั้งหมด ครบจบในคราวเดียว คือ จ่ายก้อนเดียวจบ พร้อมเปิดให้บริการได้เลย และยังไม่มีการ “หักเปอร์เซ็นต์รายได้อีกด้วย” ทั้งหมดนี้เองจึงทำให้เงินลงทุนหลักแสนนั้น ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เพราะไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีก ไม่ต้องถูกหักส่วนแบ่งอีก ซึ่งอาจต่างจากอีกหลายๆ ที่ ที่ยังมีการหักเปอร์เซ็นต์ และยังมีค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ เพิ่มเติมอีก แต่ก็ยังไม่ได้มี พันธมิตรทางธุรกิจ ที่สนับสนุนโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจได้มากขนาดที่ Quick Service มีให้
4. Quick Service มีโอกาสสำเร็จมากกว่า เพราะจำกัดสาขาในการเปิด
อีก 1 ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ Quick Service แตกต่างและโดดเด่นก็คือ “การให้ความสำคัญกับความมั่นคงของสาขา” เพราะ Quick Service เชื่อมั่นว่า ถ้า “สาขาอยู่ได้ Quick Service ก็อยู่ได้” ดังนั้น ในนโยบายของการขยายสาขา จึงจำกัดเพียงแค่ 1 ตำบล 1 สาขา เท่านั้น เพื่อให้แต่ละสาขาได้มีฐานลูกค้าในพื้นที่อย่างเต็มที่ ไม่ต้องถูกแย่งลูกค้ากันเองจากแฟรนไชส์เดียวกัน นั่นเองจึงทำให้ผู้ลงทุนหลายๆ รายตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะหากมีทำเลดีอยู่ แต่ยังไม่ยอมรีบเปิด แล้วมีผู้ลงทุนคนอื่นเปิดไปก่อน ตำบลนั้นก็จะไม่สามารถเปิดสาขาได้อีกเลย
เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น Quick Service จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อลดความเสี่ยงของผู้ลงทุนลงให้ได้มากที่สุด ทั้งด้วยการสรรหาพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งระดับประเทศมาช่วยสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจ ทั้งออกแบบโครงสร้างรายได้ให้มีช่องทางการสร้างรายได้มากกว่า 1 ช่องทาง และทั้งมีการดูแล พร้อมแก้ไขปัญหาให้กับผู้ลงทุนอย่างเต็มที่ มีการจัดอบรมพนักงานให้ มีการไปเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลให้เมื่อเริ่มต้นเปิดสาขา ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ทำให้ Quick Service แตกต่างจากแฟรนไชส์ส่งพัสดุอื่นทั่วไป และทำให้ผู้ลงทุนประทับใจ มองเห็นโอกาสความมั่นคงเติบโตที่จะสามารถสร้างได้ผ่านแฟรนไชส์ Quick Service จนทำให้ปัจจุบัน Quick Service ขยายสาขาได้อย่างต่อเนื่อง มีสาขาเปิดใหม่ทุกเดือน และกำลังมุ่งหน้าสู่เป้าหมาย 1,000 สาขาในเร็วๆ นี้ ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาตรวจสอบทำเลเบื้องต้นได้ ว่ามีสาขาเปิดแล้วหรือยัง เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการสร้างธุรกิจดีๆ ที่ทำให้ชีวิตมีความมั่นคงได้มากขึ้นไปอย่าง…น่าเสียดาย