ท่ามกลางวิกฤตการณ์ COVID-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า มีหลายๆ ธุรกิจที่ไม่สามารถพยุงรักษาความมั่นคงของตัวเองไว้ได้ โดยบางธุรกิจถึงขั้นต้องล้มละลายปิดกิจการไป ในขณะที่อีกหลายๆ ธุรกิจก็ไม่สามารถเปิดดำเนินการต่อได้ ทำให้รายได้ขาดหาย และมีแต่ค่าใช้จ่ายที่สุดท้ายก็กลับมาใหม่อีกครั้งได้ยาก ทั้งนี้ Quick Service คือแฟรนไชส์ที่ตรงกันข้าม โดยตั้งแต่เกิดช่วงวิกฤติไวรัสโควิดขึ้น ก็มีการเติบโตหลักๆ 3 ประการ ดังต่อไปนี้
1. Quick Service ทุกสาขายังคงเปิดให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ร้านค้า และธุรกิจอื่นๆ ต้องปิดตัวลงเพราะคนไม่ออกจากบ้าน แต่สำหรับแฟรนไชส์ของ Quick Service นั้น ยังคงเปิดต่อได้ เพราะ ถึงแม้ประเทศจะอยู่ในสถานการณ์ Lock Down แต่ “บริการของ Quick Service” ก็ยังมีความจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะบริการส่งพัสดุ ที่พอทุกคนไม่ได้ทำงานตามปกติ ก็หันไปค้าขายออนไลน์กันมากขึ้น จึงทำให้การส่งพัสดุกลายเป็นช่องทางที่ทำให้เกิดรายได้ หรือบริการอื่นๆ ของ Quick Service อย่างการต่อ พ.ร.บ. ประกัน ภาษี รถยนต์ ก็ได้รับความสนใจ เพราะไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล ทำให้ไม่พลาดการต่อ พ.ร.บ. เมื่อถึงกำหนด หรือการให้บริการขายประกันโควิดเอง ก็ถือว่าตอบโจทย์ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย ตลอดจนการเป็นจุด Drop Off ของลาซาด้า ช้อปปี้ ก็ทำให้ยอดของการเข้ามาใช้บริการที่สาขา Quick Service นั้นสูงมากขึ้นสวนกระแสสถานการณ์เป็นอย่างมาก และสุดท้ายกับบริการจ่ายบิล เติมเงิน เคาน์เตอร์เซอร์วิส รวมถึงการให้คำแนะนำสินเชื่อบ้านและรถยนต์ ก็มีผู้คนให้ความสนใจบริการอย่างไม่ขาดสาย เพราะห้างปิด ธนาคารปิด ทุกอย่างปิดหมด ช่องทางเดียวที่ใกล้บ้านที่สุดอย่าง Quick Service จึงเป็นที่พึ่งของผู้คน
2. รายได้ของแต่ละสาขา Quick Service เติบโตขึ้นกว่าปกติ
เนื่องจากแฟรนไชส์ Quick Service เป็นศูนย์รวมของบริการในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ แบบครบจบในที่เดียว อาทิ บริการส่งพัสดุด่วน บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส จ่ายบิล เติมเงิน โอนเงิน บริการจุด Drop Off ของลาซาด้า ช้อปปี้ บริการต่อ พ.ร.บ. ประกันภัยภาษี บริการถ่ายรูปด่วนติดบัตร ฯลฯ จึงทำให้เมื่อผู้ให้บริการรายอื่นๆ ไม่สามารถให้บริการได้ แต่สาขาของ Quick Service ยังเปิดอยู่ จึงส่งผลให้มีผู้มาใช้บริการมากขึ้น และรายได้ของแต่ละสาขาก็เพิ่มตามขึ้นในทันที ทั้งนี้ เห็นได้ชัดเจนมาที่สุดเลยจากบริการส่งพัสดุด่วน ที่มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เพราะผู้คนไม่อยากออกจากบ้าน เลยหันไปใช้บริการสั่งของมากขึ้น รวมถึงการหันไปเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่มากขึ้นด้วย ซึ่งจุดนี้เองจึงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ในอนาคตข้างหน้า การเติบโตของธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนนั้น จะยิ่งเติบโตขึ้นไปอีก และแน่นอนว่า Quick Service ก็อยู่ในกระแสของการเติบโตนั้นด้วย
3. สาขาใหม่ Quick Service ยังเปิดทุกเดือนต่อเนื่อง
เงินลงทุนเปิดแฟรนไชส์ของ Quick Service นั้น อยู่ที่ 235,000 บาท เป็นเงินลงทุนก้อนเดียวที่จ่ายจบครบก็สามารถมีอุปกรณ์ทุกอย่างรวมตกแต่งพร้อมเปิดให้บริการได้ทันที ซึ่งแม้หลายๆ คนจะมองว่าเป็นเงินลงทุนที่สูงไปสักนิด ซึ่งยิ่งในสถานการณ์วิกฤตโควิด ที่ทุกคนเงินขาดมือกันแบบนี้ด้วยแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกแพงเข้าไปใหญ่ แต่ในความเป็นจริงนั้น ก็ยังมีผู้สนใจลงทุน ที่มั่นใจ และมองเห็นโอกาสของการเปิด Quick Service โดยเชื่อมั่นว่าจะเป็นธุรกิจที่เติบโตและสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ในทุกสถานการณ์ และนั่นเองที่ทำให้ตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน แม้สถานการณ์โควิดจะทำให้ทุกอย่างดูย่ำแย่ แต่ก็ยังมีแฟรนไชส์สาขาใหม่ของ Quick Service เปิดตัวทุกเดือนอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Quick Service มีจุดเด่นที่สามารถทำให้ทุกคนเชื่อมั่นได้ว่า จะนำพารายได้ที่มั่นคงและเติบโตมาให้ได้
จาก 3 เหตุการณ์การเติบโตของแฟรนไชส์ Quick Service ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตในสภาวะวิกฤต ที่เศรษฐกิจย่ำแย่แบบสุดๆ นี้เอง ได้สะท้อนความจริงให้เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า Quick Service มีรูปแบบโมเดลธุรกิจและการทำรายได้หลายช่องทางที่คิดวิเคราะห์มาเป็นระบบอย่างดี จึงทำให้สามารถปรับตัวได้กับทุกสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น Quick Service ก็ได้พิสูจน์ความเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งนี้มายาวนานแล้วร่วม 10 ปีที่ก่อตั้งมา และยังสามารถขยายสาขาได้อยู่อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีมากกว่า 450 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด Quick Service ก็ยังคงเติบโตได้ตลอด ดังนั้นเอง สำหรับใครที่กำลังสนใจมองหาธุรกิจที่ลงทุนคุ้มค่า ได้รับผลตอบแทนดี มีความมั่นคง และมีโอกาสเติบโตได้ต่อไปในอนาคตล่ะก็ Quick Service คือ 1 ใน ธุรกิจที่ตอบโจทย์ และแข็งแกร่งอย่างน่าจับตามอง ซึ่งไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
